วิธีใช้กล้องวงจรปิดอย่างถูกต้อง เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัย

การลงทุนติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อเสริมความปลอดภัยถือเป็นเรื่องที่คุ้มค่า แต่หลายคนมักพบว่าประสิทธิภาพของระบบไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง ปัญหานี้มักเกิดจากการขาดความรู้เรื่องการติดตั้งกล้องวงจรปิดอย่างถูกต้อง เพราะการใช้งานระบบกล้องวงจรปิดไม่ใช่แค่การกดปุ่มเปิดแล้วปล่อยให้ทำงานไปเรื่อย ๆ แต่ต้องอาศัยการจัดการและการใช้งานที่เหมาะสม ในบทความนี้ เราจะแนะนำ 6 วิธีใช้กล้องวงจรปิดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้การลงทุนของคุณเกิดประโยชน์ด้านความปลอดภัยอย่างคุ้มค่าที่สุด  

6 วิธีใช้กล้องวงจรปิด

มาดูกันดีกว่าว่า 6 วิธีใช้กล้องวงจรปิดที่จะช่วยยกระดับการรักษาความปลอดภัยของคุณได้นั้น มีอะไรบ้าง  

1. เลือกตำแหน่งติดตั้งกล้องวงจรปิดให้เหมาะสม

เริ่มต้นจากวิธีการแรกคือ การเลือกตำแหน่งติดตั้งซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของวิธีใช้กล้องวงจรปิดให้มีประสิทธิภาพ ควรติดตั้งในจุดที่ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงและจุดเข้า – ออกหลัก เช่น ประตูหน้าบ้าน ประตูหลังบ้าน หน้าต่าง ทางเข้าโรงรถและบริเวณที่มีทรัพย์สินมีค่า นอกจากนี้ ควรติดตั้งในระดับที่พ้นจากการเอื้อมถึงของผู้บุกรุก อย่างน้อย 2.5 – 3 เมตรจากพื้น แต่ไม่ควรสูงเกินไปจนทำให้ภาพไม่ชัดเจน

ทั้งนี้ก็มีข้อควรระวังอีกในการเลือกตำแหน่งติดตั้งอีก คือควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งกล้องให้เผชิญกับแสงแดดโดยตรง เพราะอาจทำให้ภาพมีแสงจ้าเกินไปหรือเกิดเงาจนอาจจะทำให้มองไม่เห็นวัตถุ บุคคลหรือการเคลื่อนไหวในบริเวณที่ติดตั้งได้ 

2. เลือกประเภทของกล้องวงจรปิดที่เหมาะสม

วิธีใช้กล้องวงจรปิดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั้น นอกจากจะต้องพิจารณาว่า กล้องวงจรปิดยี่ห้อไหนดีแล้ว ยังรวมไปถึงประเภทของกล้องให้เหมาะกับพื้นที่และวัตถุประสงค์การใช้งาน โดยกล้องวงจรปิดมีหลายแบบ และมีคุณสมบัติที่เหมาะสมแตกต่างกันออกไป ดังนี้ 

• กล้องโดม (Dome Camera) ออกแบบให้มีลักษณะเป็นทรงโดม เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ที่ต้องการมุมมองกว้าง มีความทนทานและป้องกันฝุ่นและน้ำได้ (บางรุ่นรองรับมาตรฐาน IP) สามารถหมุนได้ 360 องศาในบางรุ่นเพื่อความยืดหยุ่นในการมองเห็น มักใช้ในพื้นที่ภายในอาคาร เช่น ห้างสรรพสินค้าหรือออฟฟิศ
• กล้องทรงกระบอก (Bullet Camera) มีลักษณะเป็นทรงกระบอก หรือทรงปืน เหมาะสำหรับการติดตั้งภายนอกอาคาร ความทนทานสูง มักออกแบบให้รองรับสภาพอากาศที่รุนแรง เช่น ฝนหรือแดดจัด สามารถมองเห็นในระยะไกล และสามารถตั้งให้มองเฉพาะจุดที่ต้องการได้ บางรุ่นมีฟังก์ชัน IR (อินฟราเรด) เพื่อการบันทึกภาพในที่มืด
• กล้องสปีดโดม (Speed Dome) สามารถหมุนและซูมได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เหมาะสำหรับการติดตามวัตถุที่เคลื่อนไหวเร็ว มักใช้ในระบบรักษาความปลอดภัยที่ต้องการความคล่องตัว เช่น สนามบินหรือถนนที่มีการจราจรหนาแน่น มีฟังก์ชันการปรับมุมมองอัตโนมัติและการซูมที่มีความละเอียดสูง ป้องกันการรบกวนจากสภาพแวดล้อมภายนอกด้วยมาตรฐาน IP 
• กล้องโรบอท (Robot Camera) กล้องที่สามารถเคลื่อนไหวและปรับทิศทางได้เอง เช่น สามารถหมุนหรือขยับมุมกล้องอัตโนมัติ ใช้เทคโนโลยี AI หรือการตรวจจับการเคลื่อนไหวเพื่อปรับมุมมองและติดตามวัตถุ เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการการติดตามการเคลื่อนไหวหรือรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง มีความสามารถในการบันทึกภาพหรือถ่ายวิดีโอในมุมต่างๆ และส่งข้อมูลผ่านระบบเครือข่าย  

การเลือกใช้กล้องให้เหมาะกับการใช้งานเป็นวิธีใช้กล้องวงจรปิดที่ช่วยประหยัดงบประมาณและเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัย 

3. วางแผนการติดตั้งกล้องวงจรปิด

การวางแผนการติดตั้งอย่างรอบคอบเป็นหนึ่งในวิธีที่หลายคนมองข้าม ทั้งนี้ ควรเริ่มจากการสำรวจพื้นที่และทำแผนผังการติดตั้ง ระบุจุดที่ต้องการความคุ้มครองมากที่สุด คำนวณจำนวนกล้องที่ต้องใช้ และวางแผนการเดินสายไฟและสายสัญญาณ 

อย่างไรก็ตาม หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านการติดตั้งคุณภาพสูง DAS Inter Group ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี เรามีทีมงานมืออาชีพที่พร้อมให้คำแนะนำตั้งแต่การเลือกประเภทกล้อง การวางแผนตำแหน่งติดตั้ง ไปจนถึงการดูแลบำรุงรักษาหลังการขาย เพื่อให้ระบบรักษาความปลอดภัยของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลา   

4. เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ

อีกวิธีใช้กล้องวงจรปิดให้เกิดประโยชน์สูงสุด คือการเชื่อมต่อกับระบบรักษาความปลอดภัยอื่น ๆ เช่น ระบบกันขโมย ระบบ Access Control ควบคุมการเข้า – ออกหรือระบบสมาร์ตโฮม การเชื่อมต่อเหล่านี้ทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน กล้องวงจรปิดรุ่นใหม่ ๆ สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน ทำให้คุณสามารถตรวจสอบภาพจากกล้องได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน บางรุ่นยังมีระบบแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบการเคลื่อนไหวผิดปกติ ทำให้คุณสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างทันท่วงที 

5. สำรองข้อมูล

ระบบบันทึกภาพเกิดความเสียหาย ข้อมูลทั้งหมดอาจสูญหาย ทั้งนี้ควรมีการสำรองข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นประจำ โดยอาจใช้ฮาร์ดดิสก์ภายนอก คลาวด์สตอเรจหรือระบบ NAS (Network Attached Storage) อย่างไรก็ตาม สำหรับธุรกิจหรือองค์กรที่มีความเสี่ยงสูง ควรพิจารณาใช้ระบบสำรองข้อมูลแบบอัตโนมัติที่บันทึกข้อมูลไปยังอุปกรณ์หรือสถานที่อื่นในทันที เพื่อป้องกันกรณีที่มีการโจรกรรมหรือทำลายอุปกรณ์บันทึกภาพในสถานที่เกิดเหตุ 

6. หมั่นตรวจเช็กและบำรุงรักษา

หลังจากติดตั้งและใช้งานกล้องวงจรปิดมาสักพักแล้ว ควรตรวจสอบการทำงานของกล้องและระบบบันทึกภาพเป็นประจำ อย่างน้อยเดือนละครั้ง ว่ากล้องยังทำงานได้ปกติ ภาพที่บันทึกยังชัดเจนและระบบบันทึกภาพยังมีพื้นที่เพียงพออยู่ เพราะการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้กล้องวงจรปิดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานยาวนาน  

สรุปบทความ

วิธีใช้กล้องวงจรปิดอย่างถูกต้องเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัย ควรเริ่มตั้งแต่การเลือกตำแหน่งติดตั้ง เลือกประเภทกล้องให้เหมาะสม วางแผนการติดตั้งอย่างรอบคอบเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ สำรองข้อมูลอย่างเป็นระบบและการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้ระบบรักษาความปลอดภัยของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและทำให้คุณมั่นใจได้ว่าทรัพย์สินและคนที่คุณรักจะได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่ DAS Inter Group มีราคากล้องวงจรปิดพร้อมบริการติดตั้ง ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับคุณกัน!