ค่า COP คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญต่อการเลือกแอร์? 

การตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ หรือมองหาแอร์ยี่ห้อไหนดีที่ประหยัดไฟนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาหรือดีไซน์ภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยสำคัญทางเทคนิคที่เราควรทำความเข้าใจ นั่นก็คือค่า COP ที่สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศ ดังนั้นในบทความนี้ DAS Inter Group จึงอยากจะมาคุณมาทำความรู้จักกันว่า ค่า COP คืออะไร เพื่อจะช่วยให้คุณสามารถเลือกเครื่องปรับอากาศที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านความเย็นสบายและการประหยัดพลังงานในระยะยาว

ค่า COP คืออะไร 

COP ย่อมาจาก Coefficient of Performance เป็นค่าที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศ โดยจะแสดงถึงอัตราส่วนของปริมาณความร้อนที่เครื่องปรับอากาศสามารถทำความเย็นได้ต่อปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เครื่องใช้ไป หรือเข้าใจง่าย ๆ ว่า อัตราส่วนระหว่างปริมาณความเย็นหรือความร้อนที่เครื่องให้ได้กับพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ ยิ่งค่า COP สูง แอร์จะทำงานได้คุ้มค่าพลังงานมากขึ้นนั่นเอง 

ทำไมค่า COP ถึงสำคัญต่อการเลือกแอร์ 

ค่า COP ถึงเป็นดัชนีชี้วัดที่สำคัญอย่างยิ่งในการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ มาดูดีกว่าว่าค่า COP มีความสำคัญอย่างไร ให้คุณได้รู้ก่อนตัดสินใจซื้อแอร์ 

ประหยัดค่าไฟฟ้าและลดค่าใช้จ่ายระยะยาว 

เครื่องปรับอากาศที่มีค่า COP สูง หมายความว่าเครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้พลังงานไฟฟ้าในการสร้างความเย็นต่อหน่วยได้น้อยกว่า ทำให้การใช้พลังงานโดยรวมลดลง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการประหยัดค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือน เพราะฉะนั้นหากคุณกำลังมองหาเครื่องปรับอากาศเครื่องใหม่ และอยากใช้งานให้ได้คุ้มค่ายาวนาน แนะนำให้เลือกแอร์ที่มีค่า COP สูงจะช่วยประหยัดไฟมากกว่า 

วัดประสิทธิภาพการทำความเย็นของแอร์ได้ชัดเจน 

ค่า COP ช่วยให้คุณเปรียบเทียบประสิทธิภาพการทำความเย็นของแอร์ต่างยี่ห้อและรุ่นได้อย่างเป็นมาตรฐาน เพราะคำนวณจากสภาพการทำงานที่กำหนด ทำให้รู้ว่าแอร์รุ่นไหนใช้พลังงานคุ้มค่าและได้ความเย็นมากที่สุด นอกจากนี้ การรู้ค่า COP ยังช่วยให้คาดการณ์ค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายต่อเดือนได้ง่ายขึ้น ทำให้เลือกแอร์ที่เหมาะกับงบประมาณและความต้องการใช้งานได้ตรงจุด 

ช่วยเลือกแอร์ให้เหมาะกับขนาดพื้นที่และการใช้งานได้ 

การรู้ค่า COP ช่วยให้ตัดสินใจเลือกขนาด BTU ของแอร์ให้เหมาะสมกับขนาดห้องได้แม่นยำยิ่งขึ้น เพราะแอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง อาจทำความเย็นได้เต็มที่โดยไม่ต้องใช้ BTU สูงเกินความจำเป็น ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าไฟได้ 

นอกจากนี้ ยังช่วยให้เลือกโหมดการทำงานได้เหมาะสม เช่น การเปิดแอร์โหมด Dry ในวันที่อากาศชื้น หรือการตั้งเวลาปิดแอร์ เพื่อให้เครื่องทำงานคุ้มค่าและสะดวกต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทำให้ทั้งความเย็นและการประหยัดไฟมาพร้อมกัน

ค่า COP ที่ดี คือเท่าไหร่? 

โดยทั่วไป แอร์ที่มีค่า COP อยู่ระหว่าง 3 – 6 ถือว่ามีประสิทธิภาพดี ใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและช่วยประหยัดค่าไฟได้ชัดเจน แอร์ที่มีค่า COP สูงกว่า 4 จะยิ่งประหยัดไฟมากขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานต่อเนื่องในห้องขนาดใหญ่หรือบ้านที่เปิดแอร์ตลอดวัน 

วิธีคำนวณค่า COP ของเครื่องปรับอากาศ 

การคำนวณค่า COP สามารถคำนวณได้จากสูตร ดังนี้ 

COP = ปริมาณความเย็นที่เครื่องปรับอากาศทำได้ (Cooling Output) ➗ปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เครื่องใช้ไป (Electrical Energy Input) 

เช่น แอร์ให้ความเย็น 3 kW ใช้พลังงาน 1 kW ค่า COP = 3 ซึ่งหมายความว่าแอร์ใช้พลังงาน 1 หน่วย แต่ให้ความเย็นเทียบเท่า 3 หน่วย ทั้งนี้ หน่วยที่ใช้ในการคำนวณต้องเป็นหน่วยเดียวกัน เช่น หาก Cooling Output มีหน่วยเป็นวัตต์ (W) Electrical Energy Input ก็ต้องมีหน่วยเป็นวัตต์ (W) เช่นกัน

COP, EER และ SEER แตกต่างกันอย่างไร 

ทั้ง COP, EER และ SEER ต่างก็เป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศ แต่มีการคำนวณและเงื่อนไขการทดสอบที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

• COP (Coefficient of Performance) เป็นอัตราส่วนของพลังงานความเย็นที่ได้ต่อพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ไป โดยวัดที่สภาวะการทำงานมาตรฐานเพียงจุดเดียว มักใช้ในบริบททางวิศวกรรมและสำหรับการทำความร้อน/ความเย็นโดยรวม 
• EER (Energy Efficiency Ratio) คล้ายกับ COP แต่ใช้หน่วยที่แตกต่างกัน โดย EER คืออัตราส่วนของปริมาณความเย็น (หน่วยเป็น BTU) ต่อกำลังไฟฟ้าที่ใช้ไป (หน่วยเป็นวัตต์ W) วัดที่สภาวะการทำงานมาตรฐานเพียงจุดเดียว 
• SEER (Seasonal Energy Efficiency Ratio) เป็นค่าประสิทธิภาพตามฤดูกาล โดยวัดประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศตลอดช่วงฤดูการทำความเย็นทั้งหมดในสภาวะอุณหภูมิที่แตกต่างกัน ทำให้เป็นค่าที่สะท้อนถึงประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานที่แม่นยำกว่า EER และเป็นค่าที่ใช้ในฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ในปัจจุบัน 

สรุปบทความ 

ค่า COP คืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เข้าใจประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศได้ชัดเจนมากขึ้น ทำให้สามารถเปรียบเทียบแอร์แต่ละรุ่นได้อย่างมีหลักการ และเลือกเครื่องที่ใช้พลังงานได้คุ้มค่า การเลือกแอร์ที่มีค่า COP เหมาะสมหรืออยู่ในระดับสูง จะช่วยให้ได้ความเย็นสบายตามต้องการ พร้อมลดภาระค่าไฟในระยะยาว และตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างคุ้มค่าในทุกวัน 

หากต้องการความมั่นใจตั้งแต่การเลือกแอร์ไปจนถึงการติดตั้ง การเลือกใช้บริการซื้อแอร์พร้อมติดตั้งจาก DAS Inter Group จะช่วยให้คุณได้เครื่องปรับอากาศที่เหมาะสมกับพื้นที่ และติดตั้งอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน ช่วยให้แอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงานและใช้งานได้ยาวนานในระยะยาว

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ค่า COP มีหน่วยวัดเป็นอะไร? 

ค่า COP เป็นค่าอัตราส่วนที่เกิดจากการหารปริมาณพลังงานที่ได้ต่อปริมาณพลังงานที่ใช้ไป โดยที่ทั้งสองมีหน่วยเดียวกัน ดังนั้น ค่า COP จึงเป็นค่าที่ “ไม่มีหน่วย” (unitless) 

จะหาค่า COP ของแอร์แต่ละรุ่นได้อย่างไร? 

โดยปกติแล้ว ค่า COP จะระบุอยู่ในเอกสารข้อมูลจำเพาะ (Technical Specification) หรือคู่มือการใช้งานของเครื่องปรับอากาศรุ่นนั้นๆ ซึ่งสามารถสอบถามจากผู้จำหน่าย หรือค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์ของผู้ผลิตได้ 

ค่า COP ต่ำหรือสูงควรเลือกแบบไหน? 

ควรเลือกเครื่องปรับอากาศที่มี ค่า COP สูง เพราะหมายถึงเครื่องปรับอากาศมีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานที่ดีเยี่ยม สามารถสร้างความเย็นได้มากโดยใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยลง ทำให้ประหยัดค่าไฟได้มากกว่า