คู่มือการซื้อกล้องวงจรปิด
เขียนโดย: purich.v | 28 มกราคม 2020
กล้องที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญต่อระบบกล้อง รายละเอียดต่างๆ มักใช้เพื่อที่จะตัดสินและเปรียบเทียบกล้องวงจรปิดที่แตกต่างกันไปและไม่สำคัญอะไรมาก ไม่ได้เปรียบเทียบในแง่ของรูปลักษณ์ แต่ในคู่มือนี้เราจะอธิบายปัจจัยหลักๆ ที่ควรคำนึงเมื่อจะต้องเลือกกล้องที่เหมาะสมกับการใช้
TVL หรือ television lines หากคุณจะอ่านแค่เรื่องเดียว ก็ขอให้อ่านเรื่องนี้
นี่เป็นจำนวนของเส้นแนวนอนที่กล้องสามารถบันทึกและถ้าคุณได้ค้นคว้ามาแล้วบ้าง เราจะอภัยที่คุณคิดผิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่ที่จริงแล้วตัวTVL ไม่ใช่สิ่งที่ควรดูมากที่สุด
เรื่องที่สำคัญที่สุดคือ การให้แน่ใจว่าเลนส์เหมาะสมกับการใช้งาน ไม่มีตัว TVL ที่สามารถจับภาพเกินธรรมชาติของมันได้หรอก ที่ความละเอียดที่ D1 คุณจะได้เลขพิกเซลประมาณ 40,000 และคุณต้องการขยายความสามารถของพิกเซลเพื่อที่จะจับรายละเอียดภาพได้ดีขึ้น ถ้ากล้องที่มี 380 TVL ทำให้คุณอ่านป้ายเลขทะเบียนได้ในระยะ 15 เมตร ตัวกล้องที่มีเลนส์แบบเดียวกันแต่มี 700 TVL ก็จะไม่สามารถอ่านป้ายได้ที่ระยะ 20 เมตร มันอาจจะเพิ่มได้อีกเพียงครึ่งเมตร ในรายละเอียดที่ลงลึก กล้องทุกตัวเราจะบ่งชี้ความสามารถในการจับภาพได้ขึ้นอยู่กับคุณอยู่ห่างจากระยะที่คุณจะอ่านป้ายทะเบียนรถเท่าใด ถ้าคู่แข่งเสนอความสามารถของกล้องที่เหนือกว่า คุณก็ไม่ต้องรีรออะไร คุณไม่สามารถอ่านป้ายทะเบียนได้ในระยะ 25 เมตรด้วยเลนส์ 9 มิลลิเมตรถึงแม้ว่าจะมี TVL มากเท่าไรก็ตาม
สิ่งสุดท้ายที่ต้องจำไว้คือตัวเลขส่วนใหญ่มักจะเป็นเลขที่ปลอมขึ้นมา ร้านค้าต่างๆ ชอบอ้างเกี่ยวกับ TVL เพื่อที่จะขายกล้องได้ แต่ที่จริงแล้วมันดูได้แค่ตอนกลางคืน และความจริงแล้วตัวเลขความคมชัดในตอนกลางวันมันก็น้อยว่าตัวเลขที่โชว์ในเว็บไซต์ซะอีกภาพข้างล่างนี้แสดงให้เห็นว่าเลข TV Line จริงซึ่งมีความต่างกันเพียงเล็กน้อย ส่วนเรื่องที่ต่างกันมากคือเลนส์ที่ใช้ตามวิธีการใช้ตั้งหาก
เลนส์กล้องวงจรปิดแบบซูมหรือ varifocal
คุณควรเลือกกล้องที่มีเลนส์ซูม คุณจะจ่ายเงินประกันนิดเดียวให้กับกล้องที่มีเลนส์ฟิกซ์ ประมาณ 900 บาทหรือขึ้นอยู่กับเลนส์แต่ละชนิดแต่หมายความว่าคุณสามารถเลือกเลนส์ได้หลากหลาย สุดท้ายคุณได้กล้องในพื้นที่ที่คุณสามารถซูมเข้าและออกเพื่อที่จะปรับให้เหมาะกับข้อต้องการของคุณ
ระดับ Lux กล้องวงจรปิดทำงานได้ดีอย่างไรในพื้นที่อับแสงหรือแสง infra-red
แสงเท่าไรที่กล้องจะต้องใช้เพื่อที่จะ “มองเห็น” เราจะเลือกคู่ประกอบ CCD และ DSP ของ Sony ที่จะให้แน่ใจว่าคนส่วนใหญ่เห็นต่ำกว่า 0.01 lux โดยไม่ต้องการแสง infra-red ความไวของมันจะมีผลที่เยี่ยมยอดเมื่อใช้กับกล้องที่มีแสง infra-red แบบบิลท์อิน เมื่อประเมินกล้องวงจรปิด เรามักจะพบความแตกต่างอย่างมากในสมรรถนะการใช้แสงน้อย
กล้องบางตัวจะเพิ่มระดับแสงเองแต่คุณห้ามไปเชื่อตัวเลขเหล่านี้ ภาพที่ปรากฏในระดับที่ปรับสูงสุดแล้วมักจะแย่มากพอๆ กับการเพิ่ม มันจะเพิ่มความดังของเสียงที่คุณไม่ต้องการ จึงไม่ควรเชื่อตัวเลขค่าต่ำเหล่านี้
ภาพเหล่านี้ไม่ได้เป็นของปลอม กล้อง 0.01 lux สามารถทำงานดีอย่างนั้นจริง บางทีเมื่อคุณออกจากที่ทำงานหลังจากมองไปที่มอนิเตอร์กล้องวงจรปิด คุณจะประหลาดใจว่าข้างนอกมืดเช่นนี้
DSP (บางทีก็เรียกว่า chipset) สมองของกล้องวงจรปิด
การทำงานของ chipset หรือ DSP สำคัญพอๆ กับ CCD sensor เราทำงานหนักมากกับผู้ผลิตเพื่อที่จะสรรเลือกกล้องที่ทำงานได้ควบคู่กับกล้องแต่ละตัวได้ดีที่สุด ความสามารถในการบันทึกในระดับแสงน้อย กล้องจะปรับได้อย่างไรเมื่ออยู่กับแสงที่ต่างกันหรือสภาพอากาศและทั้งหมดนี้เกิดจากการเลือก DSP ผู้ผลิตจำนวนมากมักจะเขียนข้อมูลไปอย่างตรงไปตรงมาเผื่อว่าช่างติดตั้งจะไม่เข้าใจ
ความกว้างของเลนส์โฟกัส (ขนาดเป็นมิลลิเมตร) เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเมื่อจะต้องเลือกกล้อง
เป็นการพูดถึงเรื่องความกว้างของเลนส์ ไม่ใช่เส้นผ่านศูนย์กลาง ยิ่งเลขมีจำนวนน้อย ความกว้างของการมองเห็นและแสงก็จะเข้าได้มาก ยิ่งเลขมีจำนวนมาก การมองเห็นก็ยิ่งน้อย ยิ่งต้องย่นระยะกล้องและกล้องจะสามารถจับรายละเอียดได้ในระดับสูง ด้วยกล้อง CCD ขนาด 1/3 นิ้ว เลขจำนวน 4 มิลลิเมตรหรือน้อยกว่าก็จะเป็นมุมกว้าง จำไว้ว่าเลนส์ที่มีมุมกว้างจะให้การมองเห็นพื้นที่กว้างกว่าแต่จะทำให้รายละเอียดลดลงไปด้วย ยิ่งเลนส์ยาวเท่ามากเท่าใด การย่นระยะก็จะแสดงให้เห็นรายละเอียดที่เพิ่มขึ้นแต่แค่ในพื้นที่จำกัด
มาเรียนรู้ถึงข้อแตกต่างระหว่างการขยายแบบ optical และ digital
ด้วยการขยายแบบ optical ตัวเลนส์เองจะทำงานและคุณภาพรายละเอียดของตัวมันจะเพิ่มขึ้นและด้วยการขยายแบบ digital การขยายจะทำด้วยการขยายส่วนของภาพด้วยอิเล็กทรอนิค จะทำให้ความชัดลดลงจนถึงมองไม่เห็นได้เลย
กล้องทรงกล่องหรือตัวกล้อง
นี่เป็นชนิดของกล้องที่คุณอาจจะนึกไปถึงกล้องวงจรปิดไปด้วย ไม่เพียงแต่เป็นกล้องที่ดูดีที่สุดในโลกนี้ มันยังต้องการกล่องหุ้มกล้องชนิดพิเศษ หากคุณอยากจะรักษาชิ้นส่วนของมันอยู่ซึ่งมันจะมีแนวโน้มที่จะมีความเสียหายและบางทีก็ต้องตั้งระบบยุ่งยากกว่า ตัวกล้องและเลนส์มักจะขายแบบแยก
กล้อง mini/bullet
มีรูปร่างเหมือนกับลูกกระสุน (mini/bullet) ไม่ได้มาพร้อมกับแสงอินฟราเรดและอาจจะถูกใช้งานน้อยได้น้อยกว่าเนื่องจากมีรูปร่างที่เล็กๆ และทำงานไม่ได้ในทุกสถานการณ์ มันมักจะใช้งานบนเคาวน์เตอร์บริการ จนถึงพื้นที่ที่เห็นได้ชัด กล้อง mini/bullet ที่ราคาถูกใช้เซนเซอร์ภาพขนาด 0.25 นิ้ว มักจะมีตัวเซนเซอร์ CMOS ด้วย
เซนเซอร์ CDS
เครื่องมือตัวนี้มักหลอกคนได้บ่อยๆ ร้านบางร้านอาจจะบอกว่า CDS เป็นกล้องที่ช่วยให้ระดับแสงที่ไม่มาก มันเป็นแค่โฟโตเซลล์ที่ช่วยให้แสงinfra-red ทำงาน ดังนั้นกล้องทุกตัวที่มีแสง infra-red แบบบิลท์อินจะมีเซนเซอร์แคดเมียมซัลไฟด์ มันเป็นเพียงตัวสวิตช์แสงและไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเซนเซอร์ CCD ของกล้องวงจรปิดหรือเกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการของวงจรไฟฟ้า
แสงอินฟราเรด
กล้องของเราบางตัวมีแสงอินฟราเรดแบบบิลท์อิน ในระดับที่มีแสงน้อย ตัวสวิตช์LED เล็กๆและตัวกล้องจะเปลี่ยนไปที่โหมดขาว-ดำ คุณจะไม่สามารถเห็นแสงอินฟราเรดด้วยตามนุษย์ (ถึงแม้ว่าคุณจะเห็นแสงสีแดงที่ริบหรี่ออกมา หากคุณมองไปที่ LED บนกล้อง กล้องจะใช้แสงอินฟราเรดเมื่อจะกระทบกับพื้นผิวและสะท้อนกลับ จึงจะเห็นได้ในความมืด
ค่า IP
จะแสดงให้เห็นถึงว่ากล้องวงจรปิดทนทานต่อฝุ่นและน้ำที่สามารถซึมเข้าไปได้ มักจะมีการพูดถึงเลข double digit ด้วย ตัวเลขแรกจะโยงถึงการป้องกันฝุ่นและเริ่มจาก 0 ถึง 6 โดย 0 คือการไม่ได้ป้องกันอะไรเลย ส่วนเลข 6 คือการป้องกันทั้งหมด ตัวเลขที่สองจะแสดงให้เห็นถึงระดับการป้องกันน้ำและเริ่มจาก 0ที่ไม่ได้ป้องกันอะไรเลย จนถึงเลข 8 คือการป้องกันทั้งหมดจากการอยู่ใต้น้ำเป็นระยะเวลายาวนาน ตัวเลขที่น่าสนใจคือ เลข 5 เป็นการป้องกันน้ำที่พุ่งออกมาจากทุกทิศทางไม่แรงมาก ส่วนเลข 6 สามารถป้องกันน้ำที่พุ่งออกมาอย่างแรง เหมาะสำหรับบนเรือ ส่วนเลข 7 เป็นการป้องกันชั่วคราวจากการจมถึง 1 เมตรเป็นเวลา 30 นาที ในทางปฏิบัติ ตัวเลขที่มากกว่า IP65 นั้นเหมาะสำหรับการใช้ภายนอก หากคุณอาศัยอยู่ที่ประภาคาร คุณอาจจะต้องการเลขที่มากถึง IP66 จนถึง IP 67