
เปิดแอร์โหมด Dry เปลืองไฟไหม? รู้จักโหมด Dry พร้อมข้อดี-ข้อเสียก่อนเปิดใช้งาน
เบราเซอร์ของคุณเก่าเกินไปแล้ว คลิกที่นี่เพื่ออัพเกรด ก่อนเข้าชมเว็บไซต์
Your browser is outdated Click Here to Upgrade before using our website
เขียนโดย: DAS Intergroup | 17 ตุลาคม 2025
เคยไหมที่ตื่นนอนตอนเช้าแล้วรู้สึกเจ็บคอ คอแห้งผากเหมือนกระดาษทราย ทั้งที่เมื่อคืนก็เข้านอนตามปกติ? อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นบ่อยครั้งกับคนที่นอนในห้องแอร์ จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่รบกวนการพักผ่อนและทำให้วันใหม่ไม่สดใสเท่าที่ควร หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมการนอนในห้องที่เย็นสบายจึงทำให้เกิดอาการคอแห้งได้ และจะมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง บทความนี้ DAS Inter Group จะพาไปไขทุกข้อสงสัย พร้อมแนะนำเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณนอนหลับสบายในห้องแอร์ได้ตลอดคืนโดยไม่ต้องกังวลกับอาการคอแห้งอีกต่อไป
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการนอนห้องแอร์แล้วคอแห้งนั้น มาจากกระบวนการทำงานของเครื่องปรับอากาศโดยตรง เพราะหน้าที่ของแอร์ไม่ใช่แค่การทำความเย็น แต่ยังรวมถึงการลดความชื้นในอากาศอีกด้วย เมื่อแอร์ดึงความร้อนออกจากห้อง ก็จะดึงเอาความชื้นในอากาศออกไปด้วยพร้อมกัน ทำให้อากาศภายในห้องแห้งและมีความชื้นสัมพัทธ์ต่ำลง เมื่อเราหายใจเอาอากาศแห้ง ๆ เข้าไปตลอดทั้งคืน ร่างกายจะสูญเสียความชุ่มชื้นบริเวณเยื่อบุโพรงจมูกและลำคอได้ง่ายกว่าปกติ
นอกจากนี้ การนอนอ้าปากโดยไม่รู้ตัวก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้อาการรุนแรงขึ้น เพราะลมหายใจจะผ่านลำคอโดยตรง ทำให้น้ำลายระเหยอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ตื่นมาพร้อมกับอาการคอแห้ง เจ็บคอและระคายคอในที่สุด
เมื่อรู้สาเหตุแล้ว วิธีแก้อาการนอนห้องแอร์แล้วคอแห้งก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ เพื่อให้การนอนหลับในคืนต่อไปของคุณสบายกว่าที่เคย
การตั้งอุณหภูมิแอร์ที่เย็นจนเกินไป จะยิ่งทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานหนักขึ้นและดึงความชื้นออกจากอากาศมากขึ้นตามไปด้วย ลองปรับอุณหภูมิให้อยู่ที่ประมาณ 26 – 27 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับที่เย็นสบายกำลังดี ไม่ทำให้อากาศแห้งจนเกินไปและยังเป็นระดับอุณหภูมิที่ช่วยให้ประหยัดไฟอีกด้วย พร้อมตั้งเวลาปิดแอร์ล่วงหน้าสัก 1 – 2 ชั่วโมงก่อนตื่นนอนก็เป็นอีกวิธีที่ดี ที่จะช่วยให้ร่างกายได้ปรับตัวเข้ากับอุณหภูมิปกติและลดภาวะอากาศแห้งต่อเนื่องยาวนาน
วิธีที่ง่ายที่สุดในการเพิ่มความชื้นในห้องคือการวางภาชนะใส่น้ำ เช่น ชามหรือแก้วน้ำ ไว้ที่หัวเตียงหรือมุมใดมุมหนึ่งของห้อง น้ำจะค่อย ๆ ระเหยและเพิ่มความชื้นในอากาศ ช่วยบรรเทาปัญหาเปิดแอร์แล้วคอแห้งได้ในระดับหนึ่ง บางคนอาจใช้วิธีปลูกต้นไม้ฟอกอากาศที่ช่วยคายความชื้นได้ เช่น ต้นลิ้นมังกร หรือเดหลี ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน
สำหรับคนที่เจอปัญหานอนแอร์แล้วคอแห้งอย่างรุนแรง การลงทุนกับเครื่องทำความชื้น (Humidifier) ถือเป็นทางออกที่มีประสิทธิภาพสูงสุด อุปกรณ์นี้จะช่วยพ่นละอองน้ำเพื่อเพิ่มและควบคุมระดับความชื้นในอากาศให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ประมาณ 40 – 60% ทำให้คุณนอนหลับสบายและหายใจสะดวกขึ้นมาก
การปล่อยให้ลมแอร์เป่าโดนหน้าหรือลำตัวโดยตรง จะทำร่างกายสูญเสียน้ำได้เร็วยิ่งขึ้น DAS Inter Group แนะนำให้คุณปรับบานสวิงของแอร์ให้ลมพัดขึ้นเพดานหรือหันไปทิศทางอื่นที่ไม่ใช่เตียงนอน เพื่อให้ความเย็นกระจายตัวอย่างทั่วถึงโดยไม่ปะทะกับร่างกายโดยตรง
การจิบน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิห้องเล็กน้อยก่อนเข้านอน จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับลำคอได้เป็นอย่างดี แต่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำปริมาณมาก ๆ ในคราวเดียว เพราะอาจทำให้ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำกลางดึกและรบกวนการนอนหลับได้ อย่างไรก็ตาม การดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดทั้งวันก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำด้วย
แอร์ที่สกปรกเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นละอองและเชื้อโรค ซึ่งคุณทรงพล บำเพ็ญวรกิจ (ผู้เชี่ยวชาญด้านติดตั้งเครื่องปรับอากาศของ DAS Inter Group) อธิบายว่าการเมื่อฝุ่นละอองและเชื้อโรคถูกเป่าออกมาพร้อมลมเย็นก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในลำคอและระบบทางเดินหายใจได้ง่ายขึ้น ดังนั้นการล้างแอร์เป็นประจำทุก ๆ 6 เดือน นอกจากจะช่วยให้อากาศสะอาดยังช่วยยืดอายุการใช้งานและประหยัดค่าไฟอีกด้วย
หากรู้สึกว่าจมูกแห้งมาก ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ต้องหายใจทางปากและคอแห้งตามมา การใช้สเปรย์น้ำเกลือสำหรับพ่นจมูก (Saline Nasal Spray) ก่อนนอน จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้โพรงจมูก ทำให้หายใจสะดวกขึ้น
การสวมชุดนอนแขนยาวขายาวที่ไม่หนาหรือบางจนเกินไป จะช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์ในอุณหภูมิที่ต่ำจนเกินไป เป็นการช่วยลดความแห้งของอากาศไปในตัว
นอกจากการดูแลลำคอแล้ว ริมฝีปากก็เป็นอีกส่วนที่มักจะแห้งแตกเมื่อนอนในห้องแอร์ การทาลิปบาล์มหรือวาสลีนเคลือบไว้ก่อนนอนจะช่วยล็อกความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี
โดยทั่วไปแล้ว อาการคอแห้งจากการนอนห้องแอร์ไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรง แต่เป็นอาการที่สร้างความรำคาญและการนอนได้ อย่างไรก็ตาม หากปล่อยให้คอแห้งและระคายเคืองเป็นประจำ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในลำคอได้ง่ายขึ้น และสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือหอบหืด อากาศที่แห้งและเย็นอาจกระตุ้นให้อาการกำเริบได้
จริง เครื่องทำความชื้นสามารถเพิ่มและควบคุมระดับความชื้นในอากาศได้อย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพมากกว่าการวางภาชนะใส่น้ำ ซึ่งการระเหยของน้ำจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างและอาจให้ผลไม่เพียงพอสำหรับห้องขนาดใหญ่หรือคนที่ต้องการความชื้นในระดับที่เฉพาะเจาะจง
หากคุณได้ลองปรับใช้วิธีแก้อาการนอนห้องแอร์แล้วคอแห้งข้างต้นไปทั้งหมดแล้ว แต่อาการยังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น กรนเสียงดัง ตื่นมาแล้วหายใจไม่สะดวก หรือแสบร้อนกลางอก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งอาจไม่ได้มาจากเครื่องปรับอากาศเพียงอย่างเดียว แต่อาจเป็นสัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) หรือโรคกรดไหลย้อนได้
อาการนอนห้องแอร์แล้วคอแห้ง เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและมีสาเหตุหลักมาจากความชื้นในอากาศที่ลดลงจากการทำงานของเครื่องปรับอากาศ แต่ปัญหานี้สามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม การเพิ่มความชื้นในห้องด้วยวิธีต่าง ๆ การปรับทิศทางลม การดูแลความสะอาดของแอร์ และการดูแลตัวเองด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับความเย็นสบายและนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่มตลอดคืน โดยไม่ต้องตื่นมาทรมานกับอาการคอแห้งอีกต่อไป
และหากต้นตอของปัญหามาจากแอร์เครื่องเก่าที่ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ การเลือกติดตั้งแอร์เครื่องใหม่ก็เป็นทางออกที่แก้ปัญหาได้จากต้นเหตุ ซึ่งทาง DAS Inter Group มีบริการซื้อแอร์พร้อมติดตั้งครบวงจรโดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมให้คำปรึกษาเพื่อให้คุณได้แอร์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง สนใจสามารถติดต่อเราได้ที่ 098-467-4678 เรายินดีให้บริการ