เบราเซอร์ของคุณเก่าเกินไปแล้ว คลิกที่นี่เพื่ออัพเกรด ก่อนเข้าชมเว็บไซต์

Screenshot

Your browser is outdated Click Here to Upgrade before using our website

เคล็ดลับประสบความสำเร็จช่วง COVID-19

5 เคล็ดลับสำหรับ SME ทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จผ่านวิกฤติ COVID-19

เขียนโดย: purich.v | 20 สิงหาคม 2021

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างมากทำให้หลายธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมและบริการต้องหยุดชะงักลง ไม่เพียงแต่ธุรกิจขนาดใหญ่ (Corporate) ที่ได้รับผลกระทบ แต่ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดอย่าง (SME) ก็ได้รับผลกระทบไปไม่น้อย จนบางแห่งนั้นอาจถึงกับต้องปิดตัวลงไปเลยก็มี 

ถึงแม้วิกฤติโควิด-19ยังคงไม่จบลงและอาจจะอยู่กับเราไปอีกนาน ในฐานะผู้ประกอบการต่างต้องปรับตัวและหาทางออกให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ ดังนั้นสำหรับวันนี้เราจึงมีเคล็ดลับในการทำธุรกิจในช่วงวิกฤติโควิดสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กมาให้เรียนรู้กันเพื่อฝ่าฟันและปรับตัวให้รอดไปต่อในช่วงวิกฤติโควิดในครั้งนี้ ซึ่งเราหวังว่าเทคนิคเหล่านี้อาจจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการทุกท่านในการปรับตัวเพื่อใหธุรกิจอยู่รอดต่อไปในช่วงโควิดนี้

  1. สื่อสารกับลูกค้าให้มากขึ้น การสื่อสารกับลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด นอกจากจะได้ข้อมูล(Insight) จากกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่มแล้วยังสามารถกระตุ้นให้ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ สร้างชีวิตีวาให้แบรนด์ และง่ายต่อการสร้างแคมเปญใหม่ๆในอนาคตด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิกฤติโควิด-19นี้เองที่แบรนด์ต่างๆ ต่างพยายามสร้างจุดเด่น เพื่อดึงดูดลูกค้าให้สนใจในตัวแบรนด์มากยิ่งขึ้น
  1. หาเอกลักษณ์ของธุรกิจให้พบ ในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้นสิ่งสำคัยอันดับแรกที่แบรนด์ขาดไม่ได้คือการสร้างจุดแข็งให้เป็นที่น่าจดจำ การสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ (Brand Identity) หลายคนอาจคิดว่าสามารถสร้างได้ง่ายๆเพียงแค่ออกแบบโลโก้หรือสโลแกนที่โดนใจผู้คน แต่ความเป็นจริงแล้วการสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์มีอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น นั่นคือการสร้างมุมมองพิเศษบางอย่างต่อลูกค้า การส่งมอบความรู้สึกรวมทั้ง ตัวตน เอกลักษณืที่โดดเด่นและแตกต่างไปสู่ใจของผู้บริโภคและนั่นคือสิ่งที่ผู้อื่นพูดถึงแบรนด์ของคุณ 

เอกลักษณ์หรือจุดแข็งของแบรนด์ที่แข็งแกร่งนั้น สามารถสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้ดี ซึ่งหากธุรกิจของคุณกำลังพัฒนาเอกลักษณ์ของแบรนด์อยู่ สิ่งสำคัญอันดับแรกในที่จะต้องลงมือทำคือ      “ค้นหาจุดยืนและความต่างจากแบรนด์อื่นๆให้พบ” การสร้างจุดแข็งจะทำให้ลูกค้าสามารถจดจำแบรนด์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤติโควิด-19ที่หลายบริษัทต่างประสบปัญหาแต่ก็มีบางบริษัทหที่รอดมาได้ จะสังเกตุได้ว่าแบรนด์เหล่านั้นต่างมีจุดแข็งหรือตัวตนที่ชัดเจนกันทั้งนั้น ซึ่งนั่นทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในแบรนด์มาอย่างยาวนาน ธุรกิจจึงดำเนินต่อไปได้ในช่วงวิกฤตินั้นเอง

  1. วางแผนการเงินให้ชัดเจน 

การวางแผนทางการเงินอย่างชัดเจน แบ่งเงินลงทุน เงินสำรองในการทำธุรกิจถือเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก ในการทำธุรกิจนั้น การสร้างกระแสเงินสด (Cash Flow) เปรียบเสมือนหัวใจหลักของการเปิดร้านและทำธุรกิจ เพราะเมื่อธุรกิจรู้จักวางแผนและบริหารกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว สถาณะทางการเงินของธุรกิจก็จะคล่องตัว ช่วยลดความเสี่ยง ทั้งยังสามารถรับมือได้กับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

ดังนั้นเพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กสามารถบริหารจัดการกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรามี 4 วิธีจัดการ Cash Flow ที่จะช่วยให้การจัดการสระแสเงินสดได้ไม่ติดขัดแม้ในช่วงโควิด19 มาแนะนำดังนี้

3.1 วิเคราะห์ความเสี่ยงและเตรียมตัวรับมือล่วงหน้า

การทำธุรกิจนั้นย่อมมีความเสี่ยงเกิดได้ขึ้นเสมอ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่จะต้องเคยผ่านวิกฤติเศรษฐกิจมาแล้ว โดยปัจจุบันวิกฤติเศรษฐกิจที่ร้ายแรงที่สุดที่เคยพบเจออยู่ก็หนีไม่พ้นการระบาดของโรคโควิด-19 เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะสร้างความเสียหายให้ธุรกิจได้มากมายขนาดนี้ ธุรกิจเกือบทุกประเภทต้องปรับตัวกันจากหน้ามือเป็นหลังมือ บางธุรกิจก็ต้องปิดตัวลงเพราะไม่มี Cash Flow หรือเงินสำรองใช้จ่ายเพื่อหมนุนในธุรกิจให้ดำเนินต่อไปได้

ดังนั้นเจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องเรียนรู้การบริหารเงินอย่างละเอียด รู้จำนวนเงินสดที่มี และทดลองประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าว่าถ้าเกิดวิกฤติโควิด-19 หรือเหตุการณ์ที่จะมากระทบธุรกิจในอนาคต เราจะบริหารจัดการกระแสเงินสดอย่างไรต่อไป การวิเคราะห์ความเสี่ยงและวางแผนรับมือล่วงหน้าจะช่วยป้องกันปัญหาการจัดการเงินในอนาคตได้ดี

3.2 ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

การบริหารจัดการรายรับและรายจ่ายช่วยทำให้เห็นภาพของธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งเมื่อเราวางแผนการเงินอย่างชัดเจนจะทำให้เห็นภาพรวมทางการเงินของธุรกิจ  และในช่วงวิกฤติโควิด19 นั้นทำให้การจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าลดลง ธุรกิจจึงได้กำไรลดลงตามไปด้วย ดังนั้นเราควรหาทางลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปเพือให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดต่อไปได้ในช่วงวิกฤตินี้ 

สำหรับวิธีการตรวจสอบหาค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นนั้นเริ่มต้นทำได้ง่ายๆ โดยขั้นแรกคือ สำรวจรายจ่ายของธุรกิจทั้งรายเดือนและรายปีว่ามีอะไรที่ต้องใช้จ่ายบ้าง จ่ายจำนวนเงินเท่าไร จ่ายกี่ครั้งหรือเหมารายปี จากนั้นจึงวิเคราะห์ว่ามีค่าใช้จ่ายส่วนไหนบ้างที่สามารถลดได้ เช่น ค่าน้ำค่าไฟ หรือการลงทุนที่ไม่จำเป็นบางส่วนออกไปก่อน ถ้าหากมีการจ่ายค่าเช่าก็อาจจะต้องเจรจาขอลดค่าเช่า  ในกรณีไม่มีมาตรการช่วยเหลือการตัดค่าใช้จ่ายส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปให้ได้มากที่สุดก็จะช่วยลดการใช้จ่ายลงไปได้ ถึงแม้ว่าจะดูเป็นค่าใช้จ่ายที่เล็กน้อยแต่ถ้าหากปล่อยสะสมไว้นานก็จะกลายเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ ทำให้ผู้ประกอบต้องรับภาระเพิ่มขึ้นในช่วงวิกฤติโควิด-19นี้ได้

3.3  มีเงินสำรองจ่ายฉุกเฉิน

เมื่อธุรกิจมาถึงจุดคุ้มทุนแล้ว ผูัประกอบการจะต้องเก็บเงินไว้สำรองจ่ายในส่วนต่างด้วยเสมอ เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เราสามารถหยิบเงินสำรองตรงนี้มาใช้จ่ายก่อนโดยไม่กระทบต่อการเงินในบริษัท ซึ่งสำหรับเงินสำรองนั้นแนะนำว่าควรมีกระแสเงินสดไว้หมุนเวียนในบริษัทอย่างน้อย 3 เดือน เงินสำรองนี้อาจจะเป็นทุนส่วนตัว เงินกู้ หรือเป็นวงเงินจากบัตรเครดิตก็ได้

เมื่อพูดถึงบัตรเครดิตแล้ว เราเชื่อว่าผู้ประกอบการทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยในเรื่องของ Cash Flow และเทคนิคที่เราอยากแนะนำก็คือ ให้เลือกบัตรเครดิตที่มีรางวัลให้เยอะ ๆ เช่น มีคะแนนสะสมและใช้จ่ายเป็นส่วนลดในการเดินทาง การซื้อสินค้า หรือค่าใช้จ่ายในธุรกิจส่วนต่าง ๆ และการซื้อของด้วยบัตรเครดิตก็ช่วยให้คุณติดตามค่าใช้จ่ายแต่ละประเภทได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

3.4  กระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าในร้านให้เร็วขึ้นด้วยโปรโมชั่นพิเศษ

การจัดโปรโมชั่นพิเศษสามารถช่วยกระตุ้นความสนใจทำให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้มากกว่า ยิ่งในช่วงโควิด-19ที่ผู้คนต่างต้องกักตุนสินค้า หรือต้องการใช้จ่ายเงินอย่างคุ้มค่ามากที่สุด การจัดโปรโมชั่น เช่น แจกของแถมเมื่อซื้อสินค้าครบตามจำนวนที่กำหนด หรือการลดเป็นเปอร์เซ็นต์เพื่อสร้างความคุ้มค่าในการจ่าย ซึ่งการจัดโปรโมชั่นนี้ควรคำนวณราคาที่เหมาะสม ไม่ขาดทุนแก่ธุรกิจด้วย นอกจากนี้การจัดโปรโมชั่นเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้กระแสเงินสด (Cash Flow) ของบริษัทดีขึ้นด้วย 

เคล็ดลับเพิ่มเติม:  การจัดโปรโมชั่นที่คุ้มค่าและได้ผลดีที่สุด คือ การจัดโปรโมชั่นให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าสมาชิก ที่บริษัทมีข้อมูลลูกค้าจากระบบ CRM อยู่แล้ว เช่น ชื่อ เบอร์โทร อีเมล์ โดยสามารถส่งโปรโมชั่นนี้ให้โดยตรงผ่านอีเมล์ SMS เพื่อกระจายสินค้าสินค้าให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วขึ้น ทำให้เพื่มกระแสเงินสดไหลเวียนในบริษัทได้จากการทำแคมเปญเหล่านี้เอง

  1. เน้นทำการตลาดออนไลน์มากขึ้น 

การทำธุรกิจในยุคปัจจุบันแตกต่างจากอดีตเป็นอย่างมาก ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย  มีข้อมูลและอินเทอร์เน็ตที่เข้าถึงลูกค้าได้หลายกลุ่มหลายพื้นที่  ทำให้การทำการตลาดนั้นมีความหลากหลายและน่าติดตามมากขึ้นไปด้วย โดยเฉพาะยุคนี้ที่การตลาดออนไลน์ (Online Marketing)ได้เข้ามามีบทบทาทสำคัญเป็นอย่างมาก  ในการทำการตลาดในยุคปัจจุบันหลายๆแบรนด์หันมาพึ่งการทำการตลาดออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Facebook,YouTube, TikTok หรือ การลงโฆษณาผ่านเว็บไซต์ที่มียอดผู้เข้าชม (Web Traffic) ที่สูง เพราะพลังอำนาจของออนไลน์สามารถเพิ่มฐานลูกค้าได้หลายแหล่ง หลายประเทศ ยิ่งถ้าเราทำแคมเปญที่โดนใจลูกค้าแล้วละก็ ก็จะช่วยให้สินค้าและแบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น 

สำหรับวันนี้เราขอแชร์เคล็ดลับการทำการตลาดออนไลน์เบื้องต้นที่จำเป็นต้องรู้มาฝาก นั้นคือ 

การสร้าง Brand Positioning หรือแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “ตำแหน่งทางการตลาด”  สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดเพราะจะทำให้เรารู้ว่าลักษณะเด่นของสินค้าคืออะไร  เพื่อที่จะทำให้วางแผนกลุ่มเป้าหมายและเอาชนะคู่แข็งได้นั่นเอง ยิ่งเมื่อเราสามารถกำหนดตำแหน่งทางการตลาดได้อย่างชัดเจนแล้ว เราก็สามารถจะสร้างสรรค์แคมเปญ สโลแกนหรือข้อความที่โดนใจให้แก่ลูกค้าได้ 

สำหรับปัจจัยในการกำหนดตำแหน่งทางการตลาด เราสามารถเริ่มต้นคิดได้หลายวิธี ดังนี้

4.1  การกำหนดตำแหน่งทางการตลาดจากคุณภาพหรือราคา

การเอาปริมาณหรือราคาของสินค้ามาเป็นลูกเล่น ก็อาจสร้างตำแหน่งทางการตลาดได้ เมื่อลูกค้านึกถึงสินค้าก็อาจทำให้เกิดภาพตามว่าสินค้าชนิดนี้คุ้มค่า คุ้มราคา เหมาะแก่การใช้งาน 

เช่น แล็คตาซอย 5 บาท 125 มิลลิลิตร  

4.2 การกำหนดตำแหน่งทางการตลาดจากประโยชน์

การนำคุณสมบัติประโยชน์ของสินค้าและบริการมากำหนดตำแหน่งทางการตลาดก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจและมีการใช้งานอย่างหลากหลาย เพราะนอกจากจะทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้นแล้ว ก็ยังเป็นการบอกถึงคุณสมบัติโดยตรงของสินค้านั้นๆได้เลย ทำให้ลูกค้าจำได้ง่าย เมื่อต้องการใช้งานก็จะนึกถึงสินค้าของเราเป็นอย่างแรกเสมอ 

 เช่น เมื่อเป็นหวัด! น้ำมูกไหล! ปวดศรีษะ! เป็นไข้!  ใช้ “ดีคอลเจน”

 4.3 การกำหนดตำแหน่งทางการตลาดจากผู้ใช้สินค้า

วิธีการยกรีวิวจากลูกค้าหรือใช้ผู้เชี่ยวชาญที่ตรงกับตัวตนสินค้านั้น ๆ มารับรองประสิทธิภาพทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกน่าเชื่อถือได้ 

เช่น คอลเกต ยาสีฟันที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่เลือกใช้ ใช้ทันตแพทย์ในการกำหนดตำแหน่งทางการตลาด

4.4 การกำหนดตำแหน่งทางการตลาดจากการเปรียบเทียบคู่แข่ง

การยกตำแหน่งหรือเคลมว่าสินค้าของเราเป็นที่หนึ่งก็สามารถช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าในการซื้อสินค้าได้ดี ยิ่งเป็นการโฆษณาต่อกลุ่มเป้าหมายใหม่ หรือผู้ใช้งานใหม่อาจจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและน่าไว้ใจทำให้ลูกค้ากล้าตัดสินใจและเป็นตัวเลือกในใจของลูกค้าได้อย่างง่ายดาย 

เช่น เบอร์ดี้ หนึ่งในใจคุณ

  1. ต่อยอดธุรกิจเดิม สู่ธุรกิจใหม่  

ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจนั้นการจะทำอะไรเดิม ๆ ก็อาจไม่ช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดอย่างแน่นอน แต่การวางแผนและลองต่อยอดจากธุรกิจเดิมไปสู่ธุรกิจใหม่จะเป็นตัวช่วยเบิกสู่เส้นทางใหม่ ๆ  ช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดในช่วงกฤติไปได้ ยิ่งในช่วงวิกฤติโควิด-19แบบนี้แล้ว ผู้ประกอบการหลายแห่งต่างต้องปรับตัวกันอย่างมาก การติดตามข่าวสาร สืบค้นความต้องการของลูกค้า แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ต่อยอดกับธุรกิจของตัวเองก็จะช่วยให้เกิดธรุกิจใหม่ ๆ ท่ามกลางวิกฤติได้ 

สำหรับเทรนด์ใหม่ในยุคโควิคนี้ มีอะไรน่าสนใจบ้าง? วันนี้เราขอยกข้อมูลมาแบ่งปันบางส่วน  เพื่อเป็นไอเดียและแนวคิดให้กับผู้ประกอบการทุกท่านฝ่าวิกฤติโควิด-19นี้ไปให้ได้ สำหรับเทรนด์ที่สามารถหยิบยกมาต่อยอดกับธุรกิจในยุคโควิด มีดังนี้

5.1 บริการจัดส่งสิ่งของ / ส่งอาหารในรูปแบบเดลิเวอรี่ 

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ผู้คนไม่สามารถออกมาจับจ่ายใช้สอยได้อย่างเป็นปกติ ด้วยมาตรการและความเสี่ยงในการติดเชื้อทำให้ผู้คนจำเป็นต้องสั่งของผ่านออนไลน์ เริ่มแรกเกิดจากการสั่งอาหาร ต่อมาก็เปลี่ยนไปสู่สั่งของใช้  จนกลายเป็นเทรนด์ยอดฮิตติดอันดับ ฉะนั้นถ้าหากธุรกิจของคุณสามารถเชื่อมโยงกับบริการขนส่งหรือเดลิเวอรี่ได้ควรจะนำเทรนด์นี้ไปปรับใช้กับธุรกิจด้วยจะเป็นผลดีอย่างมาก

5.2 Online Education หรือธุรกิจการสอนแบบออนไลน์

นอกจากวิกฤติโควิดยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจแล้วยังส่งผลไปถึงด้านการศึกษา การใช้ชีวิตของนักเรียนนักศึกษาด้วย การทำธุรกิจการสอนแบบออนไลน์กำลังมาแรงไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นติวเตอร์ส่วนตัว หรือ การสร้างคอร์สออนไลน์ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ถึงที่บ้าน ประหยัดการเดินทาง และสามารถเรียนได้อยู่ตลอดเวลาที่ต้องการ ฉะนั้นถ้าหากผู้ประกอบการท่านใดสนใจในด้านการทำคอร์สเรียน ให้คำปรึกษาทางด้านธุรกิจ (Online Coaching) ตอนนี้ก็เป็นเวลาเหมาะสมที่ควรเริ่มลงมือทำได้แล้ว!

5.3 ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ 

เทรนด์การดูแลสุขภาพยังคงมาแรงไม่หลุดอันดับ ยิ่งสถานการณ์โควิด-19ด้วยแล้วทำให้ผู้คนต่างหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น การทำธุรกิจหรือนำไอเดียด้านสุขภาพมาปรับใช้กับธุรกิจก็ช่วยสร้างความน่าสนใจแก่ลูกค้าได้มากขึ้น 

นอกจากนี้สำหรับผู้ที่สนใจในการทำธุรกิจด้านนี้หรือยากต่อยอดธุรกิจไปสู่เทรนด์ด้านสุขภาพก็สามารถเริ่มต้นได้หลายทาง  เช่น การจำหน่ายอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อุปกรณ์ออกกำลังกาย อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ช่วยป้องกันโรคติดต่อ รวมไปถึง ประกันสุขภาพและบริการออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพในด้านต่าง ๆ เราสามารถนำเทรนด์นี้มาปรับใช้กับธุรกิจหรือเป็นตัวช่วยเสริมให้แบรนด์ในการสร้างความใส่ใจแก่ลูกค้าได้เช่นกัน เช่น การแถมของสมนาคุณที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันโควิด-19 เช่น เจลล้างมือ หรือ หน้ากากอนามัย ก็จะช่วยสร้างความใส่ใจให้แก่ลูกค้าได้

5.4  ธุรกิจการสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับธุรกิจ

ปัจจุบันผู้คนต่างกันทำธุรกรรมผ่านออนไลน์มากขึ้น การสั่งของ สั่งสินค้าหรือชำระเงินก็สามารถทำได้เองโดยใช้แอพพลิเคชั่นออนไลน์ ฉะนั้นพฤติกรรมนี้ก็จะอยู่กับชีวิตคนไปอีกนานต่อไปในอนาคต ฉะนั้นการสร้างหรือพัฒนาแพลตฟอร์มธุรกิจอีคอมเมิร์ซก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ 

 โดยหัวใจสำคัญของแอพพลิเคชั่นก็จะเน้นไปที่การขาดการจัดการระบบหลังบ้านที่มีประสิทธิภาพ เช่น การรับออเดอร์ การเช็คสต็อกสินค้า และการจัดส่งสินค้าไปสู่ผู้ลูกค้าซึ่ง หากผู้ประกอบที่มีแนวคิดในการพัฒนาระบบด้านนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์และเป็นประโยชน์แก่แอพพลิเคชั่นอีคอมเมิร์ซรายย่อยได้ ซึ่งก็เป็นโอกาสที่ดีในการสร้างรายได้อย่างมหาศาล

บทสรุป

การทำธุรกิจอาจจะต้องพบเจอกับวิกฤติเป็นธรรมดา ทุกวิกฤตินั้นมีปัญหาที่แตกต่างกัน อยู่ที่เราจะมีวิธีรับมือกับปัญหานั้น ๆ ได้อย่างไร สำหรับวิกฤติโควิด-19 นี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงและส่งผลกระทบไปทุกภาคส่วน แต่อย่างไรก็ตามเราสามารถผ่านพ้นมันไปได้ถ้าหากมีการวางแผนที่ดี รู้จักปรับตัวและติดตามข้อมูลข่าวสารอยู่ตลอดเวลา  เพื่อที่จะนำข้อมูลตรงนั้นไปปรับใช้กับธุรกิจเพื่อให้คงอยู่ไปได้ท่ามกลางวิกฤติ  

สุดท้ายแล้วเราหวังว่า 5 เคล็ดลับที่เราได้นำเสนอไปนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการSME  ทั้งหลายในการทำธุรกิจและฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ จากวิกฤติในครั้งนี้ไปให้ได้ เราเชื่อว่าทุกท่านจะผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน

* บล็อกจากเว็บไซท์เพื่อนบ้าน HelloSticker Thailand

บทความอื่น ๆ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า